สะเทือนท่องเที่ยว! หนุ่มวิตถารรอรับแฟนสาวในโรงแรม เห็นหนูน้อยต่างชาติวัย 8 ขวบ เกิดอารมณ์เปลี่ยว ลากเด็กน้อยเข้าห้องคอนโทรล กระทำอนาจาร เคราะห์ดีนักท่องเที่ยวต่างชาติอีกคน ผ่านมาเห็นเหตุการณ์ จึงวิ่งหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.กะรน รวบตัวมาสอบสวน
เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (2 ม.ค.59) พนักงานสอบสวน สภ.กะรน อ.เมืองภูเก็ต เร่งสอบปากคำ นายวุฒิชัย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุ กระทำอนาจาร ด.ญ.เอ (นามสมมติ) หนูน้อยชาวต่างชาติ วัย 8 ขวบ ภายในพื้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลกะรน ก่อนมีผู้มาเห็นเหตุการณ์ ทำให้ผู้ต้องหาตกใจวิ่งหนี แล้วหลบหนีไปอยู่ในพื้นที่ อ.ถลาง แต่เจ้าหน้าที่สามารถติดตามจับกุมตัวไว้ได้ และนำตัวมาสอบสวนก่อนส่งดำเนินคดี
พ.ต.อ.สมปอง บุญรัตน์ ผกก.สภ.กะรน กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ของคืนที่ผ่านมา (1 ม.ค.59 ) ที่ผ่านมา ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.กะรน ขณะที่หนูน้อยชาวต่างชาติอายุประมาณ 8 ขวบ กำลังนั่งเล่นอยู่ภายในพื้นที่ของโรงแรม มีนายวุฒิชัย อายุ 30 ปี ซึ่งทราบภายหลังว่า มารับแฟนสาวซึ่งทำงานเสิร์ฟอยู่ภายในโรงแรม เข้าไปชักชวนด.ญ.เอ (นามสมมติ)เข้าไปยังห้องคอนโทรล หรือห้องควบคุมเสียง
ก่อนกระทำอนาจาร ใช้นิ้วสอดใส่เข้าไปอวัยวะเพศของเด็ก จนเด็กร้องเสียงดัง ก่อนที่ชาวต่างชาติซึ่งเป็นลูกค้าของโรงแรมรายหนึ่งจะผ่านมาเห็น ทำให้นายวุฒิชัยตกใจ รีบวิ่งออกจากบริเวณดังกล่าว และออกจากโรงแรมไปทันที พนักงานของโรงแรมได้โทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาถึง และนำเด็กส่งตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ซึ่งผลตรวจจากแพทย์ออกมาว่า เด็กมีอวัยวะเพศบวม
เจ้าหน้าที่ได้มีการสอบปากคำผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด และดูหลักฐานจากกล้องวงจรปิดภายในโรงแรม ก่อนจะขอศาลอนุมัติออกหมายจับผู้ก่อเหตุ คือ นายวุฒิชัย อายุ 30 ปี ซึ่งเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ถลาง และอยู่หว่างนำตัวมาสอบสวนที่ สภ.กะรน
ซึ่งเบื้องต้นจากพยานหลักฐานนั้น เข้าข่ายความผิดตามข้อกล่าวหากระทำอนาจาร ตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 279 กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี และเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาว่าเข้าข่ายตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา มาตรา 276 ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราหรือไม่
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.สมปอง บุญรัตน์ ผกก.สภ.กะรน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับคดีนี้ยังเคราะห์ดีที่ผู้ต้องหาไม่ได้มีการข่มขืนกระทำชำเราเด็ก ซึ่งจะเป็นผลเสียหายร้ายแรงต่อการท่องเที่ยวและประเทศไทย แต่แน่นอนว่าขณะนี้ความเชื่อมั่นของครอบครัวเด็กและนักท่องเที่ยวที่อยู่ใน เหตุการณ์นั้น ย่อมส่งผลให้เขาไม่อยากกลับมาภูเก็ตอีก จึงอยากฝากให้ผู้ประกอบการช่วยเพิ่มความเข้ม สอดส่องดูแลความปลอดภัยภายในพื้นที่ของตนเองด้วย สำหรับผู้ต้องหารายนี้นั้นจะต้องดำเนินคดีตามกฏหมายตามโทษสูงสุด
ที่มา : http://www.siamupdate.com/news-179898
0 comments:
Post a Comment