เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 ม.ค. ที่กองบังคับการสายตรวจและปฎิบัติการพิเศษ (191) พล.ต.ต.ภาณุรัตน์ หลักบุญ ผบก.สปพ. พ.ต.อ. ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบก.สปพ. พ.ต.อ.สำราญ นวลมา ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ท.ธนกฤต บุญเจริญ รอง ผกก.สายตรวจฯ พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 พร้อมฝ่ายสืบสวน กก.สายตรวจ บก.สปพ. ร่วมแถลงข่าวการจับกุม น.ส.ณิชกานต์ หรือฟาง นนทจิตต์ อายุ 28 ปี พักบ้านเลขที่ 72/1 ม.2 ต.บ้านเกาะ อ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลแขวงดุสิต ที่ 527/2556 ลง 5 ส.ค.56 ข้อหาฉ้อโกง โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหน้าบ้านเลขที่ 415 ซ.ประชาอุทิศ15 แขวงและเขตราษฎร์บูรณะ กทม. เมื่อเวลา 18.45 น. ที่ผ่านมา
พ.ต.อ.สำราญ เปิดเผยว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากกลุ่มผู้เสียหายผ่าน ทางเฟสบุ๊ก ของกองกำกับการสายตรวจ ตามโครงการ You will never walk alone ว่าน.ส.ณิชกานต์ ผู้ต้องหามีพฤติการณ์หลอกลวงเอาทรัพย์สิน โดยจะใช้รูปพริตตี้มอเตอร์โชร์เป็นรูปโปรไฟล์ในไลน์หรือเฟสบุ๊ก จากนั้นจะเข้าไปคุยตีสนิทในเชิงชู้สาว เมื่อเหยื่อหลงเชื่อ ก็จะออกอุบายอ้างว่ามีเหตุจำเป็นเร่งด่วนต้องใช้เงิน เช่นป่วย หรือญาติสนิทเสียชีวิตไม่มีเงินจัดการศพ แล้วให้เหยื่อโอนเงินให้ หรืออ้างว่าอยากได้ทรัพย์สินแต่ไม่มีเงินซื้อ แล้วจะหลอกล่อให้เหยื่อซื้อให้ หากเป็นทรัพย์สินก็จะออกอุบายให้บุคคลอื่นไปรับแทน เมื่อเหยื่อเริ่มรู้ตัวว่าโดนหลอกเอาทรัพย์สิน และมีการทวงถามน.ส.ณิชกานต์ จะเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์หนี และไม่สามารถติดต่อได้อีก
จึงสั่งการให้พ.ต.ต.ปียรัช เวสสะโกศล สว.งานสายตรวจ 3 ทำการสืบสวนหาข่าวจนทราบว่า น.ส.ณิชกานต์ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง จนกระทั่งได้ข้อมูลจากประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ “Road Runner” จากชุมชนในเขตราษฎร์บูรณะว่า พบบุคคลคล้ายกับน.ส.ณิชกานต์ ผู้ต้องหาตามหมายจับหลบหนีมาอยู่ในชุมชน เจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบและวางกำลังเฝ้าเพื่อทำการจับกุม จนกระทั่งจับกุมตัวได้ดังกล่าว
พ.ต.อ.สำราญ กล่าวต่อว่าจากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่ามีผู้เสียหายกว่า 10 ราย และส่วนใหญ่ทรัพย์สินที่ได้ไปจะเป็นเงินสด และโทรศัพท์มือถือ และมีผู้ถูกหลอกสูญเสียเงินไปมากสุด 3 แสนบาท รวมมูลค่าประมาณ 1 ล้านบาท และจากการตรวจสอบประวัติพบว่า น.ส.ณิชกานต์ ยังมีหมายจับติดตัวในความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ อีกจำนวน 1 หมายจับ ในท้องที่สน.ลาดพร้าว จึงฝากประชาสัมพันธ์ถึงผู้เสียหายรายอื่นๆที่คาดว่าถูกน.ส.ณิชกานต์ หลอกลวงในลักษณะดังกล่าวให้มาชี้ตัวผู้ต้องหาได้ที่สน.พญาไท เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนสน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายจิรภัทร โสมวิภาต อายุ 22 ปี นักศึกษาปี 4 สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง 1 ในผู้เสียหายเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับน.ส.ณิชกานต์ ทางโปรแกรมไลน์ เมื่อกลางเดือนมี.ค. ปี2556 โดยน.ส.ณิชกานต์ แอดมาหาตนโดยใช้ชื่อฟาง ซึ่งมีรูปโปรไฟล์เป็นรูปสาวพริ๊ตตี้ งานมอร์เตอร์โชว์ ตนจึงคุยด้วยและขอเป็นแฟน คุยได้ประมาณ 1 เดือนช่วงแรกก็ขอให้ซื้อของใช้จำพวกกระเป๋า รองเท้าให้ โดยตนจะโอนให้ผ่านทางธนาคาร รวมๆแล้วกว่า 5 พันบาท ต่อมาเมื่อกลางเดือนเม.ย.56 น.ส.ณิชกานต์ บอกกับตนว่าจะทำเคสโทรศัพท์ที่ด้านหลังมีรูปคู่ให้ และนัดพบที่ห้างเซนเตอร์วัน ย่านอนุสาวรีย์ชัย ซึ่งตนนำโทรศัพท์ไอโฟน 5 ไปให้ทำ เมื่อถึงที่หมายน.ส.ณิชกานต์ อ้างว่าติดธุระให้เอาโทรศัพท์มือถือไปฝากไว้ที่เพื่อนสาวประเภทสองซึ่งขาย ของอยู่ โดยจะมีโทรศัพท์ซัมซุงแกแลกซี่วาย มาให้ใช้ระหว่างรอทำเคสเสร็จ ตนจึงเชื่อใจ แต่พอกลับมาบ้านรู้ว่าถูกหลอกเพราะติดต่อไม่ได้อีกเลย
ส่วน น.ส.สุทธดา กุลโชติโอฬาร อายุ 29 ปี พริตตี้สาวที่ถูกแอบอ้างชื่อ กล่าวว่า เริ่มตั้งแต่ 4 ปีก่อนจนถึงปัจจุบัน มีผู้เสียหายที่ถูก น.ส.ณิชกานต์ หลอกลวง เข้ามาโพสต่อว่าตนในเฟสบุ๊กจำนวนมาก แต่ตนพยามชี้แจ้งกับผู้เสียหาย จนบางรายเข้าใจ แล้วช่วยหาข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าเพื่อสืบหาตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี และเคยไปแจ้งความไว้ที่ สน.พระโขนง
ที่มา : http://www.siamupdate.com/news-180201
0 comments:
Post a Comment