ทองคำปัจจุบันนั้นมีมูลค่า เทียบเท่ากับเงินสด เพราะสามารถแลกเปลี่ยนเป็นเงิน หรือสินค้าได้ ดังนั้นปัจจุบันนี้เลยมี หลายท่านนิยมซื้อทองเพื่อเก็งกำไร เพราะราคาทองมีปรับขึ้นๆลงๆ ตามตลาดโลก วันนี้ Kaijeaw.com เลยเอาสิ่งที่หลายๆคนมักสงสัยในการเลือกซื้อทองมาฝากเป็นความรู้กันค่ะ
คำถามที่พบบ่อย
Q : ทำไมเวลาเอาทองคำแท่งไปขายคืนร้านทองกลับได้ราคาไม่ตรงกับที่สมาคมประกาศ?
A : เนื่องจากร้านทองค้าปลีกทั่วไปไม่ได้เป็นผู้ผลิตทองคำแท่งเอง โดยจะต้องเดินทางไปซื้อทองจะแหล่งผลิตเช่น เยาวราช หรือ บ้านหม้อ มาจำหน่ายให้กับลูกค้าของตน โดยซื้อในราคาที่สมาคมประกาศเช่นเดียวกัน ดังนั้น ร้านทองค้าปลีกจึงจำเป็นต้องบวกค่าใช้จ่ายการขนส่งการเดินทาง ค่าความเสี่ยงภัย และค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมถึงกำไรจากการจำหน่ายทองแท่งก่อนนั้นๆลงไปด้วย ซึ่งโดยปกติคิดอยู่ที่ 50 – 100 บาท ต่อทองคำแท่ง 1บาท หรือบางที่อาจคิดถึง 200 บาท ต่อทองคำแท่งหนึ่งบาท เช่นร้านที่อยู่ในต่างจังหวัดไกลๆ ที่ต้องนั่งเครื่องบินมาซื้อที่กรุงเทพฯ ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการบริการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ที่หากต้องเดินทางมาซื้อถึงแหล่งผลิตเองอาจจะไม่คุ้มกับค่าใช้จ่ายก็เป็นได้ ในทำนองเดียวกัน เมื่อลูกค้านำทองคำแท่งมาขายคืนร้านค้า ทางร้านก็ต้องนำทองกลับมาขายคืนให้ร้านขายส่งเช่นกัน จึงจะต้องการคิดค่าใช้จ่ายทั้งขาซื้อและขาย
Q : ทองรูปพรรณ99.99%ต่างกับ96.5%อย่างไรและทองรูปพรรณ99.99%หาซื้อได้ที่ไหน ?
A : ทองรูปพรรณ99.99%ต่างกับทองรูปพรรณ96.5% คือเรื่องความบริสทธิ์ของทองคำและราคา ซึ่งทองรูปพรรณ99.99%ไม่สามารถทำรูปพรรณชิ้นเล็กได้ เนื่องจากทองเปอร์เซ็นต์สูงมีความอ่อนนิ่มเกินไป จึงเห็นทองรูปพรรณ99.99%ส่วนใหญ่จะมีน้ำหนักค่อนข้างมาก การซื้อขายจากร้านทองบางแห่งก็มี แต่ส่วนใหญ่มาตรฐานทองไทยคือ96.5%
Q : ซื้อทองดูอย่างไรว่า%ไม่ต่ำหรือไม่ใช่ทองปลอม ?
A : การเลือกซื้อทองควรซื้อกับร้านทอง ซึ่งมีที่ตั้งเป็นหลักแหล่ง เพราะมีกฎหมายว่าด้วยฉลาก สคบ.ควบคุมอยู่ แต่วิธีดูทองต้องอาศัยความชำนาญเฉพาะทาง ซึ่งมีวิธีการดูทองดังนี้ 1)ดูจากภายนอกโดยดูจากความสมดุลระหว่างน้ำหนัก กับขนาดของเส้น 2)วิธีการเผาไฟ วิธีสามารถเช็คได้ว่า %ทองเป็นอย่างไร โดยมีข้อสังเกตจากการเผาไฟ ถ้าเผาแล้วตัวสร้อยเปลี่ยนเป็นสีเขียว หรือออกดำแสดงว่า%ต่ำมีส่วนผสมอื่นเจือปน 3)วิธีการเช็ค%ทองด้วยเครื่องมือเอ็กซเรย์วิธินี้ เป็นวิธีที่ไม่ทำให้สินค้าเสียหายและทราบว่ามีส่วนผสมอะไรบ้าง ความแม่นยำขึ้นอยู่กับประสิทธิภาพของเครื่อง 4)วิธีการถ่วงจำเพาะ วิธีนี้ต้องทำการหลอมละลายทอง แล้วหาความถ่วงจำเพาะว่า ได้%ทองเป็นเท่าไร 5)การFrie Assayหมายถึงการตรวจสอบทองโดยว่าวิธีการตรวจสอบทอง ซึ่งเป็นวิธีที่มีผลคลาดเคลื่อนในการตรวจสอบน้อยที่สุด
Q : Gold Futures คืออะไร ?
A : การซื้อขายทองคำล่วงหน้า ซึ่งมีตลาดTFEXเป็นตลาดกลาง การซื้อขายเป็นการจับคู่กันเองระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย มีการคำนวณผลกำไรขาดทุนทุกสิ้นวันทำการ ยกเว้น วันก่อนวันสุดท้าย ของวันทำการ จะคำนวณราคา Gold Futures จากราคาทองLondon Am Fixกับอัตราแลกเปลี่ยน ณ ราคาปิด ทั้งนี้จะไม่มีการส่งมอบทองจริง
Q : ราคาทองมีการปรับขึ้นลงวันละกี่ครั้ง เวลาใดบ้าง ?
A : การปรับราคาขึ้นอยู่กับราคาทองในตลาดโลก ซึ่งเป็น real time บางวันอาจจะมีราคาเดียว หรือบางวันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงหลายครั้งก็ได้ และไม่มีการกำหนดเวลาที่แน่นอน ราคาทองในตลาดโลกมีการขึ้นลงตลอดเวลา สำหรับในประเทศไทย ราคาทองจะถูกประกาศครั้งแรกโดยสมาคมค้าทองคำ ในเวลาประมาณ 9.30 – 9.50 น. ของแต่ละวัน
Q : หากไปขายทองรูปพรรณคืนร้านทอง จะมีหลักเกณฑ์ในการรับซื้อทองรูปพรรณคืนอย่างไร ?
A : หลักเกณฑ์การรับซื้อคืนทองรูปพรรณของร้านค้าทอง คือ หัก 5 % จากราคาทองคำแท่งรับคืนประจำวันที่สมาคมประกาศ ซึ่งจะมีการติดประกาศราคารับซื้อคืนทองคำรูปพรรณอยู่หน้าร้านทองทุกแห่ง ตามประกาศของ สคบ.
Q : จะซื้อทองร้านไหนจึงจะมีมาตรฐานทองที่ดี ?
A : ปัจจุบัน ร้านทองจะได้รับการรับรองมาตรฐานจาก สคบ. ซึ่งควบคุมโดยกฎหมายว่าด้วยฉลาก โดยร้านทองทุกแห่งจะต้องติดฉลากตามถาดแต่ละถาด ซึ่งจะมีรายละเอียดเรื่องของน้ำหนัก เปอร์เซ็นต์ทอง ค่าแรง ชนิดสินค้า ระบุไว้อย่างชัดเจน รวมถึง สคบ. ได้ดำเนินการควบคุณมาตรฐานร้านทองผู้ผลิต ให้ผลิตทองที่เป็นมาตรฐาน เพื่อให้สินค้าที่ส่งไปขายทั่วประเทศเป็นมาตรฐานเดียวกัน เป็นการดำเนินการควบคุมต้นน้ำ ดังนั้น ผู้บริโภคจะมั่นใจได้ว่า ไม่ว่าซื้อทองร้านไหนก็ได้มาตรฐานเดียวกัน คือ 96.5%
Q : การลงทุนในทองคำ ควรเลือกลงทุนในทองคำแท่งหรือทองรูปพรรณ ?
A : ขึ้นอยู่ความต้องการใช้งาน ว่าต้องการซื้อเพื่อเป็นการเก็บออม หรือการลงทุน หากเป็นการลงทุน ควรซื้อเป็นทองคำแท่ง เพราะมีส่วนต่างซื้อเข้าขายออกบาทละ 100 บาท ไม่มีค่ากำเหน็จ แต่หากต้องการซื้อเพื่อสวมใส่เป็นเครื่องประดับ และออมทรัพย์ไปในตัว ควรซื้อเป็นทองรูปพรรณ ซึ่งจะมีค่ากำเหน็จหรือค่าแรง แล้วแต่ลวดลาย
Q : ราคาทองของไทยกำหนดจากตลาดใด ?
A : ราคาทองของไทยกำหนดจากราคาทองในตลาดโลก ณ ช่วงเวลานั้นๆ หรือเรียกว่าราคา Gold spot โดยจะอิงจากทุกตลาดมารวมกัน แล้วจึงนำมาคำนวณกับค่าเงินบาทที่เป็น real time เช่นกัน ดังนั้นการกำหนดราคาทองจะไม่ได้ยึดตลาดใดตลาดหนึ่งเป็นราคาอ้างอิง แต่เป็นราคาตลาดโลก
Q : ปัจจัยใดที่ทำให้ราคาทองขึ้นลง ?
A : ราคาทองในตลาดโลก และค่าเงินบาท ซึ่งทั้ง2ปัจจัยนี้จะเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางใดนั้น จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจของโลก อัตราเงินเฟ้อ ราคาน้ำมัน ฯลฯ
http://news.mthai.com/wp-content/uploads/2014/01/%E0%B8%97%E0%B8%AD%E0%B8%87124.jpg
ที่มา: kaijeaw.com
0 comments:
Post a Comment