เว็บไซ ต์ เมโทร ของอังกฤษรายงานเรื่องราวของการโดนคนรักหักหลังอย่างเจ็บปวดของ ฮีเธอร์ แม็กจิลเลียน หญิงสาววัย 24 ปีจากเมืองเรนฟริวไชร์ ในสกอตแลนด์ ขณะที่เธอกลับบ้านมาคลอดลูก แฟนหนุ่มของเธอกลับฉวยโอกาสแอบแต่งงานกับกิ๊กอีกคน
อโดนิส และฮีเธอร์
ฮีเธอร์ได้พบรักกับชายหนุ่มวัย 21 ปีชื่ออโดนิส โรดริเกซ ระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวที่ประเทศโดมินิกัน และทั้งคู่ได้ตัดสินใจอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขเป็นเวลาเกือบสองปี ระหว่างนั้นทั้งสองคนทำงานเป็นพนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในโดมินิกัน
กระทั่งฮีเธอร์ ตั้งครรภ์ และเธอตัดสินใจกลับบ้านที่เรนฟริวไชร์ เพื่อไปคลอดลูก ขณะที่อโดนิส ขอวีซ่าเข้าสหราชอาณาจักรไม่ผ่าน จึงทำได้เพียงรอให้เธอกลับมาหลังคลอดลูก ซึ่งฮีเธอร์ก็เชื่อเช่นนั้น
แต่ความเป็นจริงหนุ่มอโดนิส กลับฉวยโอกาสนั้นแต่งงานกับหญิงอีกคน ทิ้งให้ฮีเธอร์ที่คลอดลูกชายคนแรกต้องพบกับความผิดหวังเสียใจอย่างที่สุด
โดยฮีเธอร์มาทราบความจริงเมื่อเธอโพสต์ภาพลูกชาย "ดีเอโก้"ผ่านทางเฟซบุ๊ก และเปิดอ่านข้อความจากเพื่อนที่ส่งเข้ามาพร้อมรูป อโดนิส กำลังเข้าพิธีแต่งงานกับนักท่องเที่ยวหญิงชาวเยอรมัน
ฮีเธอร์เล่าว่า "ตอนเปิดอ่านข้อความในเฟสบุ๊ก ฉันรู้สึกเหมือนถูกชนด้วยรถบัสสองชั้นเลย เมื่อเห็นภาพอโดนิสกำลังโอบกอดจูบผู้หญิงคนหนึ่งในชุดแต่งงาน ฉันงงและตกใจมาก เพราะเราเพิ่งห่างกันแค่ 2-3 สัปดาห์ มันเป็นไปไม่ได้ที่อโดนิสจะทำความรู้จักกับหญิงอื่น และจัดงานแต่งงานภายในเวลาไม่ถึงเดือน แต่พอเห็นหน้าผู้หญิงชัดๆ ก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น"
ฮีเธอร์จำภาพผู้หญิงได้ว่าคือจูเลีย วัย 31 ปีเป็นนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันเคยมาพักในโรงแรมที่ฮีเธอร์และอโดนิสทำ งานอยู่ "ฉันสังเกตเห็นว่าทั้งสองคนเป็นเพื่อนกันทางเฟซบุ๊กเมื่อปีที่แล้วและมัก ส่งข้อความหากันบ่อยๆ แต่ตอนนั้นอโดนิส ยืนยันว่าไม่มีอะไร แต่สุดท้ายอโดนิสก็ยอมรับมาตรงๆว่าเขาแอบคบจูเลีย ระหว่างที่คบฉันด้วย ขณะที่จูเลียก็รู้ทุกอย่าง แต่เธอก็ยังแต่งงานกับเขา ไม่นึกไม่ฝันเลยว่ามันจะเป็นแบบนี้"
แม้โดนคนรักทรยศขนาดนี้ แต่ฮีเธอร์ยังกลับมาที่โดมินิกัน พร้อมลูกชายที่ตอนนี้วัย 3 เดือน เพื่อมาอยู่กับแม่ที่มาใช้ชีวิตในวัยเกษียณที่นี่ รวมทั้งอนุญาตให้อโดนิสพบหน้าลูกบ้าง
"จนถึงตอนนี้ฉันก็ยังไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น อโดนิสทำให้ฉันรู้สึกว่าเขาอยากอยู่กับฉันไปตลอด และดูตื่นเต้นเมื่อฉันตั้งท้อง แต่กลายเป็นว่าระหว่างฉันคลอดลูก เขากลับไปแต่งงานกับผู้หญิงอื่น" ฮีเธอร์กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: http://www.siamupdate.com/news-181657
0 comments:
Post a Comment